ไทยพาณิชย์มองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัว 4% การบริโภคในประเทศเริ่มแผ่ว! หนี้ครัวเรือนพุ่ง คนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย เมกะโปรเจคเลื่อน
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (EIC) รายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานตัวเลข GDP ของไทยในไตรมาส 2 ปี 2013 ขยายตัว 2.8%YOY (เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า) ชะลอลงจาก 5.4%YOY ในไตรมาสที่ผ่านมา หรือหดตัว 0.3%QOQ (เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ปรับฤดูกาล)
ทั้งนี้ GDP หดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน GDP ในไตรมาส 2 หดตัวลง 0.3% QOQ หลังจากที่หดตัว 1.7%QOQ ในไตรมาส 1 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการใช้จ่ายของครัวเรือนและการส่งออกสินค้าและบริการที่ลดลงต่อเนื่อง
EIC ระบุว่า อุปสงค์ในประเทศชะลอตัวลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 โดยสามารถขยายตัวได้เพียง 3.4%YOY ชะลอลงจาก 4.6%YOY ในไตรมาสก่อนหน้า การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนชะลอตัวลงเหลือ2.4%YOY จาก 4.4% ในไตรมาสก่อนหน้าตามการบริโภคในกลุ่มสินค้าคงทนประเภทยานยนต์หลังจากมาตรการคืนภาษีรถยนต์คันแรกทยอยหมดลง
ขณะที่การลงทุนขยายตัวราว 4.5%YOY ชะลอลงจาก 5.8% ในไตรมาสก่อนหน้าตามการชะลอตัวลงของการก่อสร้างในส่วนของภาครัฐที่ขยายตัวได้เพียง 2.4%YOY จาก 13.4%YOY ในไตรมาสแรก นอกจากนี้ การลงทุนของภาคเอกชนชะลอลงเล็กน้อยทั้งในส่วนของการก่อสร้างและการลงทุนในเครื่องจักร
ทั้งนี้ การส่งออกสินค้าหดตัวแต่รายรับด้านบริการยังขยายตัวสูง การส่งออกหดตัว 1.5% ในไตรมาสสอง โดยการส่งออกสินค้าเกษตรหดตัวลงตามปริมาณผลผลิตกุ้ง เนื่องจากเกษตรกรชะลอการเลี้ยงกุ้งรอบใหม่หลังจากที่ต้องประสบกับปัญหาจากโรค Early Mortality Syndrome หรือ EMS ในกุ้งในช่วงที่ผ่านมา และการส่งออกข้าวที่ลดลงจากการชะลอการนำเข้าของประเทศผู้นำเข้าสำคัญอย่างสหรัฐฯ
ในขณะที่การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมหลักอย่างสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นหดตัวตามอุปสงค์ในตลาดโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร อย่างไรก็ดี รายรับที่ได้จากการบริการขยายตัวได้ดีต่อเนื่องโดยเฉพาะจากการ ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังขยายตัวสูงต่อเนื่อง
EIC ระบุว่า แนวโน้มการใช้จ่ายในประเทศที่ชะลอตัวลงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการขยายตัวในปีนี้ แม้ว่ารายได้เกษตรกรจะเริ่มปรับตัวสูงขึ้นตามราคาผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญและเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำจะส่งสัญญาณที่ดีต่อทิศทางการใช้จ่ายภาคครัวเรือนในระยะต่อไป แต่การก่อหนี้เพื่ออุปโภคบริโภคในช่วงก่อนหน้านี้ทำให้ประชาชนเริ่มมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น
ในขณะที่ภาคเอกชนยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องลงทุนเพิ่มเติมเนื่องจากได้มีการลงทุนเพื่อชดเชยความเสียหายจากภาวะน้ำท่วมได้ไม่นานรวมถึงยังมีกำลังการผลิตเหลืออยู่ อีกทั้งแผนการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐในครึ่งปีหลังยังถูกชะลอออกไป ทำให้แรงส่งจากการใช้จ่ายภายในประเทศมีโอกาสที่จะหายไปบ้างในช่วงที่เหลือของปี
“เศรษฐกิจไทยปี 2013 น่าจะขยายตัวที่ราว 4% การส่งออกในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างช้าๆ ตามการฟื้นตัวของประเทศกลุ่ม G-3 รวมถึงประเทศจีนที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น แต่เศรษฐกิจไทยยังมีอุปสรรคจากการชะลอตัวของการใช้จ่ายในประเทศ ทั้งนี้ การกระตุ้นเศรษฐกิจทำได้ไม่ง่ายนักในภาวะที่ภาคครัวเรือนเพิ่มความระมัดระวังในการใช้จ่ายเนื่องจากภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้น”
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (EIC) รายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานตัวเลข GDP ของไทยในไตรมาส 2 ปี 2013 ขยายตัว 2.8%YOY (เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า) ชะลอลงจาก 5.4%YOY ในไตรมาสที่ผ่านมา หรือหดตัว 0.3%QOQ (เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ปรับฤดูกาล)
ทั้งนี้ GDP หดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน GDP ในไตรมาส 2 หดตัวลง 0.3% QOQ หลังจากที่หดตัว 1.7%QOQ ในไตรมาส 1 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการใช้จ่ายของครัวเรือนและการส่งออกสินค้าและบริการที่ลดลงต่อเนื่อง
EIC ระบุว่า อุปสงค์ในประเทศชะลอตัวลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 โดยสามารถขยายตัวได้เพียง 3.4%YOY ชะลอลงจาก 4.6%YOY ในไตรมาสก่อนหน้า การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนชะลอตัวลงเหลือ2.4%YOY จาก 4.4% ในไตรมาสก่อนหน้าตามการบริโภคในกลุ่มสินค้าคงทนประเภทยานยนต์หลังจากมาตรการคืนภาษีรถยนต์คันแรกทยอยหมดลง
ขณะที่การลงทุนขยายตัวราว 4.5%YOY ชะลอลงจาก 5.8% ในไตรมาสก่อนหน้าตามการชะลอตัวลงของการก่อสร้างในส่วนของภาครัฐที่ขยายตัวได้เพียง 2.4%YOY จาก 13.4%YOY ในไตรมาสแรก นอกจากนี้ การลงทุนของภาคเอกชนชะลอลงเล็กน้อยทั้งในส่วนของการก่อสร้างและการลงทุนในเครื่องจักร
ทั้งนี้ การส่งออกสินค้าหดตัวแต่รายรับด้านบริการยังขยายตัวสูง การส่งออกหดตัว 1.5% ในไตรมาสสอง โดยการส่งออกสินค้าเกษตรหดตัวลงตามปริมาณผลผลิตกุ้ง เนื่องจากเกษตรกรชะลอการเลี้ยงกุ้งรอบใหม่หลังจากที่ต้องประสบกับปัญหาจากโรค Early Mortality Syndrome หรือ EMS ในกุ้งในช่วงที่ผ่านมา และการส่งออกข้าวที่ลดลงจากการชะลอการนำเข้าของประเทศผู้นำเข้าสำคัญอย่างสหรัฐฯ
ในขณะที่การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมหลักอย่างสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นหดตัวตามอุปสงค์ในตลาดโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร อย่างไรก็ดี รายรับที่ได้จากการบริการขยายตัวได้ดีต่อเนื่องโดยเฉพาะจากการ ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังขยายตัวสูงต่อเนื่อง
EIC ระบุว่า แนวโน้มการใช้จ่ายในประเทศที่ชะลอตัวลงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการขยายตัวในปีนี้ แม้ว่ารายได้เกษตรกรจะเริ่มปรับตัวสูงขึ้นตามราคาผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญและเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำจะส่งสัญญาณที่ดีต่อทิศทางการใช้จ่ายภาคครัวเรือนในระยะต่อไป แต่การก่อหนี้เพื่ออุปโภคบริโภคในช่วงก่อนหน้านี้ทำให้ประชาชนเริ่มมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น
ในขณะที่ภาคเอกชนยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องลงทุนเพิ่มเติมเนื่องจากได้มีการลงทุนเพื่อชดเชยความเสียหายจากภาวะน้ำท่วมได้ไม่นานรวมถึงยังมีกำลังการผลิตเหลืออยู่ อีกทั้งแผนการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐในครึ่งปีหลังยังถูกชะลอออกไป ทำให้แรงส่งจากการใช้จ่ายภายในประเทศมีโอกาสที่จะหายไปบ้างในช่วงที่เหลือของปี
“เศรษฐกิจไทยปี 2013 น่าจะขยายตัวที่ราว 4% การส่งออกในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างช้าๆ ตามการฟื้นตัวของประเทศกลุ่ม G-3 รวมถึงประเทศจีนที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น แต่เศรษฐกิจไทยยังมีอุปสรรคจากการชะลอตัวของการใช้จ่ายในประเทศ ทั้งนี้ การกระตุ้นเศรษฐกิจทำได้ไม่ง่ายนักในภาวะที่ภาคครัวเรือนเพิ่มความระมัดระวังในการใช้จ่ายเนื่องจากภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้น”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น